ผู้เขียน หัวข้อ: ประมาณว่าเรื่องราวของ Hold IC หรือเซนเซอร์สนามแม่เหล็ก  (อ่าน 1842 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Car

  • Administrator
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 5169
    • ดูรายละเอียด
- เซ็นเซอร์สนามแม่เหล็ก
You are not allowed to view links. Register or Login

อ้างถึง
ในปัจจุบันเซ็นเซอร์แม่เหล็กเป็นอุปกรณ์ที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลาย อาทิเช่นเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการตรวจจับตำแหน่ง ความเร็ว หรือ ทิศทางในการเคลื่อนที่ และยังเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ออกแบบมาให้สามารถทนทานต่อการสั่นสะเทือน ฝุ่น และน้ำได้
ฮอลล์เอ็ฟเฟ็คเซ็นเซอร์ ก็คือเซ็นเซอร์แม่เหล็กอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำงานก็ต่อเมื่อมีสนามแม่เหล็กอยู่ในบริเวณรอบๆตัวเซ็นเซอร์ โดยเราได้รู้ว่าแล้วว่าสนามแม่เหล็กมีคุณลักษณะที่สำคัญๆได้แก่ ความเข้มสนามแม่เหล็ก(B) และขั้วแม่เหล็ก(เหนือ ใต้) ซึ่งสัญญาณเอ้าต์พุตของฮอลล์เอ็ฟเฟ็คเซ็นเซอร์นั้นเป็นฟังก์ชันที่เกิดจากความเข้มและทิศทางของสนามแม่เหล็ก ดังนั้นเมื่อตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับความเข้มของสนามแม่เหล็กรอบๆได้เกินค่าที่กำหนดไว้ จะเกิดแรงดันที่เอ้าต์พุต เรียกว่า "แรงดันฮอลล์(HALL VOLTAGE)"

ออฟไลน์ Auto Car

  • Administrator
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 5169
    • ดูรายละเอียด
จาเฟสชมรมช่างซ่อมรถจักรยานยนต์

อ้างถึง
เล่าสู่กันฟัง (Honda Move สตาร์ทมือไม่ได้ ไฟไม่มา)
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตท่านอาจารย์ เปรมชัย ขอหยิบยกเคสรถมูฟของท่านมาขยายความครับ ตอนแรกว่าจะคอมเม้นท์ในโพสต์ของท่าน แต่คิดไปคิดมา ถ้าตั้งโพสต์ใหม่น่าจะทำให้คนอ่านได้เห็นง่ายกว่า ต้องขออภัยอาจารย์ด้วยนะครับที่ไม่ได้ขออนุญาตโดยตรง
รถมูฟที่ท่านอาจารย์ได้ลงรายละเอียดอาการคือ รถสตาร์ทมือไม่ได้ กดสตาร์ทจะได้ยินแต่เสียงรีเลย์ทำงาน แต่เครื่องยนต์ไม่มีการตอบสนองใดๆ......เมื่อลองสตาร์ทเท้าเครื่องก็ไม่ติด จากการตรวจสอบพบว่าไฟไม่สปาร์คที่เขี้ยวหัวเทียน
หลังจากโพสต์แรกไปหนึ่งวัน วันต่อมาอาจารย์ได้กรุณามาเฉลยสาเหตุของอาการดังกล่าวว่า เป็นที่สายไฟเส้นสีขาว/ดำ เสียดสีกับโครงรถขาด และเมื่อทำการแก้ไขแล้วเสร็จ เครื่องยนต์ก็สามารถสตาร์ทมือได้และทำงานปรกติ............หลายคนคงสงสัย สายสีขาว/ดำ มันคือสายอะไรทำไมมันถึงมีความสำคัญทำให้รถที่เทคโนโลยีสุดล้ำออกอาการง่อยเปลี้ยได้.....ตามผมมา ผมจะเหลาให้ฟัง
ในการสั่งจุดระเบิดของกล่องECMจำเป็นต้องอาศัยสัญญาณไฟฟ้าจากเซนเซอร์CKP (ถ้าเป็นรถรุ่นก่อนๆก็รับสัญญาณจาก "พัลเซอร์") รถที่มีระบบสตาร์ทแบบalternator/starter เซนเซอร์CKPจะอยู่ติดกับขดลวดstator ซึ่งจะประกอบด้วยHole IC 4ตัวคือ U V WและPCB โดยICทั้งสี่ตัวจะเป็นเซนเซอร์แบบHall effect คือผลิตสัญญาณดิจิตอล หรือรูปคลื่นแบบเหลี่ยม(square wave) โดยสีสายไฟของแต่ละIC มีรายละเอียดดังนี้

Hole IC U = สายสีขาว/แดง
Hole IC V = สายสีขาว/น้ำเงิน
Hole IC W = สายสีขาว/ดำ
Hole IC PCB = สายสีน้ำเงิน/เหลือง

หน้าที่สำคัญของCKP คือ ตรวจจับความเร็วรอบของเครื่องยนต์และวัดองศาของเพลาข้อเหวี่ยง จากคู่มือซ่อมPCX เค้าบอกอย่างนี้ ......ผมอยากขยายคำว่าวัดองศาเพลาข้อเหวี่ยงเพิ่มสักหน่อย
หลายท่านคงเข้าใจว่า วัดเพื่อให้กล่องรู้ว่าถึงเวลาต้องจุดระเบิดที่กี่องศาใช่ไหมครับ ท่านเข้าใจไม่ผิดหรอก หน้าที่ของเค้าเป็นอย่างที่ท่านเข้าใจจริงๆนั่นแหละ! เพียงแต่เราไม่ค่อยคิดถึงอีกหนึ่งหน้าที่........ตอนสตาร์ทรถยังไงครับ! ขดลวดstatorของรถแบบนี้ ประกอบด้วยขดลวดสามชุด ซึ่งจะเรียกว่าขดลวดชุดU, ขดลวดชุดV และ ขดลวดชุดW ชื่อขดลวดไม่ได้ตั้งมาเท่ๆนะ เพราะมันจะไปสอดคล้องกับICเซนเซอร์นั่นเอง
การที่จะทำให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนได้ตอนเริ่มต้นสตาร์ท ก็ต้องปล่อยกระแสไฟเข้าไปที่ขดลวดเพื่อทำให้เกิด"สนามแม่เหล็กไฟฟ้า"ขึ้น เมื่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดขึ้นก็จะสร้างการ "ดูด" และ "ผลัก" กับแม่เหล็กถาวรที่ล้อแม่เหล็ก ผลลัพธ์ที่ได้คือเกิดแรงหมุนเพลาข้อเหวี่ยงนั่นเอง
แต่การจ่ายไฟเข้าขดลวดมันไม่ได้ง่ายๆเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะมันจะต้องปล่อยไฟให้ชุดขดลวดทั้งสามให้มีองศาที่ต่างกันเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กที่เอื้อต่อการผลักและการดูดกับแม่เหล็กถาวร ซึ่งHole IC ทำหน้าที่เป็นนายด่านตรวจจับและส่งสัญญาณกลับไปให้กล่องECM ประมวลผลแล้วจ่ายไฟไปแต่ละชุดขดลวดในเวลาที่เหมาะสม องศาไฟที่เหมาะสมและตำแหน่งที่เหมาะสม แป๊ะๆ นั่นเอง
ย้อนกลับมาดูหน้าที่หลัก คือวัดองศาเพลาข้อเหวี่ยงที่0และ360องศา ณ.ตำแหน่งดังกล่าว คือตำแหน่งที่สัญญาณจากPCBเป็น UP และสัญญาณจากWเป็น UP ด้วยเช่นกัน
เมื่อเราได้เรียนรูเจ้าCKPกันไปแล้ว คราวนี้มาลงหน้างานกันดู........เคสของท่านอาจารย์เปรมชัย ผมแยกเป็นสองปัญหา คือ
1.สตาร์ทมือไม่ได้ อธิบายได้ว่า สัญญาณWหายไป ทำให้กล่องตาบอด ไม่รู้ว่าต้องจ่ายไฟให้ขดลวดชุดไหนอย่างไร จึงเกิดอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง
2.สตาร์ทเท้าไม่มีไฟออกหัวเทียน อธิบายได้ว่า เมื่อสัญญาณWหายไป กล่องก็จะไม่รู้ว่าตำแหน่งที่0กับ360องศาอยู่ตรงไหน จึงไม่เกิดประกายไฟหัวเทียนนั่นเอง
มีคำถามนึงที่น่าคิดมากๆ หากสายที่ขาดไม่ใช่สายสีขาว/ดำ แต่เป็นสายสีขาว/แดงแทน ท่านคิดว่ารถคันนี้จะยังคงมีปัญหา2ข้อเหมือนเดิมหรือไม่?555 อยากให้อาจารย์ลองตัดสายสีขาว/แดง จริงๆเลยพับผ่าสิ!!!
สุดท้ายนี้ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมขอส่งคำอวยพรถึงผู้ดูแลเพจ, ผู้ควบคุมเพจและสมาชิกเพจที่น่ารักทุกท่าน ขอให้ท่านจงสมปราถนาทุกสิ่งทุกประการ มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงและแข็งแกร่ง พบแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตตลอดไปด้วยเทอญ.......